ความเชื่อใจเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ใดๆที่ยั่งยืนและมีความสุข แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่คู่รักบอกคุณนั้นเชื่อถือได้
ผู้ชายในชีวิตของคุณสาบานว่าเขาจบกับแฟนเก่าแล้ว แต่คุณรู้ว่าเขายังเก็บรูปเธอไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ภรรยาบอกคุณว่าเมื่อคืนนี้เธอไปเยี่ยมแม่ที่ป่วย แต่สัญชาตญาณบอกคุณว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล คนรักโกหกคุณอยู่หรือเปล่า
เมื่อผู้ชายโกหก ภาษากายจะเด่นชัด
เมื่อผู้หญิงโกหก พวกเธอมักทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้
หนึ่งในเงื่อนงำล้ำค่าสุดที่จะช่วยให้คุณค้นพบว่าใครบางคนกำลังเปิดเผยและซื่อสัตย์-หรือไม่-คือสังเกตการณ์ฝ่ามือ เมื่อใครบางคนต้องการทำตัวเปิดเผย พวกเขามักแบมือข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างยื่นออกมาและพูดทำนองว่า “ผมไม่ได้ทำแบบนั้น!” “ฉันขอโทษหากทำให้คุณไม่พอใจ” หรือ “ผมพูดความจริง” ผู้ชายที่ต้องการปิดบังว่าไปอยู่ที่ไหนมาหลังออกไปเที่ยวกับเพื่อนเมื่อคืนอาจซ่อนฝ่ามือในกระเป๋ากางเกงหรือทำท่ากอดอกเมื่อพยายามอธิบายกับคู่รักว่าไปอยู่ไหนมา ส่วนผู้หญิงที่พยายามซ่อนบางอย่างจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนั้น ขณะเดียวกันก็ทำกิจกรรมอื่นๆอันหลากหลายไปพร้อมกัน ท่าหลักๆให้คอยจับตาได้แก่
1.กะพริบตาถี่ๆ
คนที่ตกอยู่ในภาวะกดดัน เช่น เมื่อกำลังโกหกจะเพิ่มอัตราการกระพริบตามากขึ้นหลายเท่า เป็นความพยายามโดยไม่รู้ตัวที่จะปิดกั้นคุณจากสายตา
2.ปิดปาก
มือปิดปากเมื่อสมองออกคำสั่งโดยคุณไม่รู้ตัวให้พยายามหยุดถ้อยคำหลอกลวงซึ่งกำลังเอ่ยออกมา
3.ถูตา
ผู้ชายมักถูตาแรงๆ และหากคำโกหกนั้นใหญ่หลวงมากก็มักจะเสมอไปทางอื่น ผู้หญิงจะใช้ท่าแตะเบาที่ใต้ตา
4.จับหู
นี่คือความพยายามเชิงสัญลักษณ์ที่จะ “ไม่ได้ยินคำลวง” เมื่อผู้โกหกพยายามปิดกั้นถ้อยคำที่กำลังพูดด้วยการกระตุกใบหูหรือเอามือปิดหู
5.ดึงคอเสื้อ
การโกหกทำให้เกิดอาการคันที่เนื้อเยื่ออันบอบบางของลำคอ จึงต้องถูหรือเกาให้หายคัน
ท่ามือแตะหน้าที่ยกมานี้ หากทำแยกกันก็ไม่มีท่าใดชี้ชัดได้ว่าคู่รักกำลังโกหกคุณ แต่หากมีการทำท่าเหล่านี้เป็นกลุ่มอย่างน้อย3ท่า และถ้าคุณรู้สึกว่าคำพูดกับการกระทำไม่ไปด้วยกัน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่
หากอยากจับโกหก ให้ดูว่าภาษากายขัดแย้งกับคำพูดหรือไม่
สิ่งสำคัญไม่ใข้ถ้อยคำที่พูดออกมา แต่เป็นหน้าตาท่าทาง
ขณะพูด ไม่มีผู้หญิงคนไหนเชื่อผู้ชายที่พูดว่า “ผมรักคุณ” พลางส่ายหน้าไปด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก : sunmag. me
ขอบคุณบทความจาก : The BODY LANGUAGE of Love ภาษากายสื่อรัก